#สำหรับใครที่น้ำหนักตัวน้อยมากๆอยู่แล้วแต่ว่าเป็นเบาหวาน เห็นหลายท่านทำ IF แล้วหาย จึงอยากจะทำบ้างแต่พอทำแล้วผอมลง หิวง่าย น้ำหนักลดอยากให้กลับมาทบทวนที่สาเหตุกันก่อนค่ะแล้วแก้ไขให้ตรงจุด ว่าผอมแต่เป็นเบาหวาน เกิดจากอะไร
หลายท่านอาจจะทราบกันอยู่แล้วว่า เมื่ออายุมากขึ้นมวลกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเผาผลาญพลังงานที่เราทานอาหารเข้าไป รวมทั้งแป้ง น้ำตาล จะลดน้อยลงลองคิดถึงผู้สูงอายุ ที่ผอมลีบลง นี่แหละค่ะ สาเหตุเป็นเพราะกล้ามเนื้อสลายหายไป ตามอายุที่มากขึ้น
แม้แต่นักกีฬา ที่แข็งแรง มีกล้ามใหญ่ๆ เมื่ออายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อก็ลดน้อยลงไปด้วยเช่นกันเพราะเป็นเรื่องของความเสื่อมตามธรรมชาติแต่เราสามารถชะลอความเสื่อมนี้ลงไปได้ ด้วยการรักษาและฟื้นฟู สร้างมวลกล้ามเนื้อขึ้นมา
เมื่อกล้ามเนื้อหาย การเผาผลาญเราลดลง แต่ถ้าเรายังทานคาร์โบไฮเดรต ทานแป้ง น้ำตาลเหมือนเดิม ร่างกายก็เผาผลาญน้ำตาลได้ไม่หมด จึงเหลือค้างออกมาอยู่ในเลือดเลยเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่คนผอมๆ เลยเป็นเบาหวาน
การทำ IF หรือว่าการปรับเวลามื้ออาหาร ให้มีช่วงที่ไม่ทานอะไร ยาวนานกว่าช่วงที่ทาน นอกจากช่วยจะลดเซลล์ดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริงของโรค ลงไปได้แล้วร่างกายจะสามารถ นำไขมันส่วนเกิน ออกมาเผาผลาญเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ทานอาหาร
ส่วนคนที่ผอมๆ ถ้ายังไม่ได้เริ่มปรับสารอาหาร แต่ไปทำ IF ก่อนเลยทานอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือยังทานผิดประเภทอยู่ แล้วไม่ออกกำลังแบบสร้างกล้ามเนื้อนอกจากน้ำตาลจะไม่ลดแล้ว ก็อาจจะทำให้ผอมลงไปเรื่อยๆ เพราะทั้งกล้ามเนื้อ ทั้งไขมันของเดิมที่มีน้อยอยู่แล้วหายไป
สำหรับคนที่เป็นเบาหวานผอมๆ อยู่เดิมแล้ว ไม่นับคนที่ผอมแต่มีพุงนะคะ ถ้ามีพุงแสดงว่าต้องกำจัดไขมันในพุงออกค่ะสำหรับผู้ที่ผอมจริงๆ คือแทบจะไม่มีไขมันส่วนเกินเลย เหมือนหลายท่านในคอร์สที่หมอปอดูแลอยู่ หลายท่านเป็นมานาน ร่างกายผอม ด้วยจากความเสื่อมตามธรรมชาติรวมถึงความเสื่อมที่ถูกกระตุ้นจากน้ำตาลที่สูงอยู่เดิม ทำให้เซลล์อักเสบ ไม่แข็งแรง แล้วอยากจะเพิ่มน้ำหนัก
จึงแนะนำว่าไม่ต้องทำ IF มาก เพราะไขมันส่วนเกินไม่ค่อยมีอยู่แล้วแต่ก็แนะนำให้ทำด้วย เพื่อหวังผลลดเซลล์ดื้ออินซูลินหมอปอจะแนะนำให้ลองทำแค่น้อยๆ เช่น 14/10, 15/9, 16/8 แค่พอให้เป็นการทานตามชีวิตประจำวันพอแล้วค่ะ
แต่สิ่งที่ควรจะต้องเน้นเพิ่มเติม นั่นคือ การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สลายหายไป และ เสริมสร้างกล้ามเนื้อกลับคืนมา
ด้วยการเพิ่มสารอาหารโปรตีน ได้แก่ กลุ่ม เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว เต้าหู้ “ร่วมกับ” การออกกำลังแบบเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยการ เวทเทรนนิ่ง หรือ ออกกำลังแบบมีแรงต้าน (Resistant training)เช่น การทำท่า บอดี้เวทต่างๆ การใช้ดัมเบล ยางยืด(Elastic Band)
การออกกำลังแบบนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อ ได้ซ่อมแซมตัวเองโดยการนำโปรตีนที่ทานเพิ่มขึ้น เอามาสร้างเป็นกล้ามเนื้อนั่นเองดังนั้น สำหรับใครที่ผอมๆ แล้วอยากเพิ่มน้ำหนัก แนะนำให้เน้นเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อด้วย
แล้วถามว่า การเพิ่มกล้ามเนื้อนั้นจะช่วยเพิ่มน้ำหนักได้อย่างไร
อยากให้คุณลองนึกถึง มันหมู ทั้งก้อน 1 กิโลกรัม เทียบกับ หมูเนื้อแดง 1 กิโลกรัมที่น้ำหนักเท่ากัน แต่หมูเนื้อแดง มีขนาดเล็กกว่ามันหมูมากนั่นเป็นเพราะ กล้ามเนื้อ มีมวลและความหนัก ความหนาแน่นมากกว่า ไขมันนั่นเองสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อจะใช้เวลานานกว่าการลดไขมัน แต่เป็นการฟื้นฟู และรักษาที่สาเหตุ และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้ด้วยค่ะ
สำหรับเบาหวานผอมถ้าอยากเพิ่มน้ำหนัก และอยากลดน้ำตาล รักษาเบาหวานด้วยให้ไปเน้นแก้ไข ที่เส้นทางสายหลัก นั่นก็คือการฟื้นฟูระบบเผาผลาญขึ้นมาใหม่ด้วยการสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ
ในช่วงแรกน้ำหนักอาจจะลงมาก่อนได้หากว่ายังไม่ได้สร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเพราะเมื่อเราลดแป้งลง น้ำตาลในเลือดจะลดลงน้ำในร่างกาย ก็จะหายไปตามแป้งที่ลดลงไปด้วย แล้วเมื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อกลับคืนมา น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นมา จากมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นค่ะ
เพราะหัวใจสำคัญของการรักษาเบาหวานให้หายอย่างยั่งยืนนั้น ไม่ใช่แค่การทำ IF หรือ Intermittent Fasting เพียงอย่างเดียวแต่มีด้วยกัน 3 ข้อ นั่นคือ
- สารอาหารที่ถูกต้อง
- IF ที่เหมาะกับร่างกาย
- การซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
ขอให้ประสบความสำเร็จกันทุกท่านนะคะ
ที่มา หมอปอสอนเบาหวานไม่ใช้ยา