เมื่ออายุเลยเลข 4 ขึ้นไป สิ่งเหล่านี้ควรทำเป็นประจำ

พออายุเรามากขึ้น อายุเป็นเพียงตัวเลขก็จริง แต่เมื่อย่างเข้าวัย 40 หลายคนก็ชักจะเริ่มบ่นถึงปัญหาสุขภาพกันบ้างแล้ว ซึ่งก็ส่อแววว่าสังขารเริ่มจะถดถอยและสึกหรอไปตามกาลเวลา ทว่าเราสามารถยับยั้งสัญญาณความชราระยะต้นได้นะคะ เพียงแค่ลองทำ 6 สิ่งเหล่านี้เท่านั้นเอง

 

1. ควรทำตัวเหมือนหมากรุก

รู้ไหมว่า ที่บอกให้ควรทำตัวแบบหมากรุก ก็เพราะว่าเวลาจะลุก จะยืน จะเดิน จะนั่งคิดดีๆ เดินช้าๆ เราจะได้ค่อยๆ คิด ค่อยๆ เดินเหมือนการเดินหมากอย่าพรวดพราด ล้มลุกคลุกคลานขึ้นมาจะลำบากไม่ได้ล้มแค่เราคนเดียว มันล้มทั้งกระดานเสียกระบวน ไปทั้งบ้าน ต้องให้ลูกหลานมาดูแลอีก

2. กินอยู่แบบ แ ม ว เดิน

ก็เพราะว่า กินเหมือนย่องเบา กินช้าๆ ค่อยๆกิน กินทีละ น้อยๆ กินเบาๆ กินบ่อยได้ แต่อย่ากินเยอะอย่ากินมูมมามเหมือน นั ก ก า ร เ มื อ ง บางคนระบบทางเดินอาหารไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อนแล้วกินแบบมูมมาม จะสำลัก ขึ้นปากขึ้นจมูก เอาได้ง่ายๆ

3. ควรนอนเหมือน เ ม า เห็ด

เมื่ออายุมากแล้วต้องนอนให้พอ หลับให้สนิทอย่าคิดมากจนนอนไม่หลับ รู้สึกง่วงก็ให้นอนโดยเฉพาะกลางคืนนอนอย่าให้เกินสี่ทุ่มกลางวันถ้ารู้สึกง่วง ให้หาเวลางีบสักสิบห้านาทีก็ยังดี หรือ ครึ่งชั่วโมงจะรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ เพราะ อายุเยอะแล้วร่างกายอ่อนล้าง่าย ต้องพักผ่อนเยอะๆ อย่าไปโหมงานหนักเหมือนหนุ่มสาว

4. หัดออกกำลังกายให้ติดเป็นนิสัย

เหมือนว่า วันไหนไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้เอาเหงือออก จะรู้สึกหงุดหงิดครั่นเนื้อครั่นตัว อะไรทำนองนั้นเลยแล้วเราจะเป็นคนสูงอายุที่สุขภาพแข็งแรง

5. ต้องบินออกจากรังให้เหมือน น ก

น ก ที่นอนอยู่กับรังเป็นนกที่กำลังกกไข่เราอายุปูนนี้แล้วจะเอาไข่ที่ไหนมากกลูกหลานที่เคยกก ก็พากันบินออกจากรังไปสร้าง รั ง ใ ห ม่ กันหมดแล้วไ อ้ ไ ข่ ที่มีก็ไม่มีโอกาสฟักเป็นตัวแล้วรีบบินออกจากรังเหมือนนกเมื่อยังบินไหว อย่านั่งจับเจ่าอยู่กับบ้าน ตลอดวันตลอดคืนจนกลายเป็นคนติดเก้าอี้ ติดเตียงไปถึงจะบินไปใกล้ ไปไกล ขอให้บินออกไปบ้างยิ่งไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศได้ยิ่งดีคนที่ได้ไปเที่ยวไกลๆ จะเป็นคนสดชื่น ไม่เหี่ยวเฉาไม่เหมือนพวก ค น ช ร า ที่ติดเตียง ไม่นานก็กลับบ้านเก่า

6. หัดให้อารมณ์เหมือนกิ่งไม้ไหว

ไหวพริ้วไปตามลมบ้าง นิ่งบ้าง เงียบบ้าง บางครั้งไม่ได้ดั่งใจบ้าง ก็ให้เข้าใจได้ว่ามันเป็นกฏของธรรมชาติ ที่ย่อมเกิด ตั้งอยู่ และ ดั บ ไปเหมือนเวลากิ่งไม้หัก ไม่เห็นมันร้องไห้ ฟูมฟาย เสียอกเสียใจแต่มันจะรีบงอกกิ่งใหม่ เพื่อฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาทดแทนให้เร็วที่สุดเราเองก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลา สู ญ เ สี ย สิ่งใดก็ต้องเข้าใจมันให้เร็วที่สุดเอาธรรมะ ที่มีธรรมชาติ เป็นแบบอย่าง มาทดแทนความเสียใจแล้วชีวิตในบั้นปลาย คุณจะมีความสุข ด้วยความเข้าใจธรรมะที่เป็นธรรมชาติ ของความเป็นธรรมดานั่นเอง